เทศบาลตำบลเวียงชัย

กล้วยบดผง กล้วยตากพลังงานแสงอาทิตย์ ปุ๋ยมูลไส้เดือน ดินเพาะ ดินปลูก น้ำหมักผักบุ้ง น้ำหมักไส้ปลา




ชื่อผลิตภัณฑ์
กล้วยบดผง กล้วยตากพลังงานแสงอาทิตย์ ปุ๋ยมูลไส้เดือน ดินเพาะ ดินปลูก น้ำหมักผักบุ้ง น้ำหมักไส้ปลา
ผลิตโดยกลุ่ม
ศูนย์เรียนรู้ร่วมใจตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เทศบาลตำบลเวียงชัย
ตั้งอยู่ที่
บ้านชัยนิเวศน์ ต.เวียงชัย ม.13
ผู้ประสานงานกลุ่ม
วรธิดา ราชคม
เบอร์โทร/อีเมล์
053769086 ต่อ 103
รายละเอียดเพิ่มเติม

 

การขับเคลื่อนการดำเนินงานศูนย์เรียนรู้ร่วมใจพัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

ศูนย์เรียนรู้ร่วมใจพัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ได้ก่อตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ตามแนวคิดของคณะผู้บริหารเทศบาลตำบลเวียงชัย นำโดยนายธนกฤต ปัญญาพฤกษ์ นายกเทศมนตรีตำบลเวียงชัย โดยมีสมาชิกสภาเทศบาล ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้าง รวมถึงผู้นำท้องที่ ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานภายในศูนย์เรียนรู้

          เนื่องจากพื้นที่ภายในศูนย์กำจัดขยะเทศบาลตำบลเวียงชัย มีพื้นที่ทั้งหมด 29 ไร่ 2 งาน ใช้ในกิจการกำจัดขยะ ประมาณ 19 ไร่ 2 งาน เหลือพื้นที่ว่างเปล่าให้ทำนา 10 ไร่ และในช่วงวิกฤตเกิดโรคโควิด 19 ทำให้สถานการณ์ทุกพื้นที่ย่ำแย่  สภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ราคาข้าวที่ผลิตออกจำหน่ายราคาถูก และในช่วงวิกฤตโควิดทำให้มองเห็นปัญหาการขาดแคลนอาหารและพืชสมุนไพรในท้องถิ่นที่ช่วยบรรเทาอาการโควิดขาดแคลน นายกเทศมนตรีตำบลเวียงชัย จึงมีแนวคิดพลิกฟื้นผืนนา มาทำประโยชน์ ในรูปแบบ“โคก หนอง นา โมเดล” ซึ่งเป็นโมเดลต้นแบบตามที่สถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติได้น้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้บริหารจัดการน้ำและพื้นที่ทำการเกษตร โดยมุ่งหวังที่จะสร้างจุดเปลี่ยนให้กับชุมชน ซึ่งแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน 30 : 30 : 30 : 10 กล่าวคือ 30% แรกสำหรับแหล่งน้ำ ทั้งการขุดบ่อทำหนองและ  การขุดคลองไส้ไก่ที่ช่วยระบายน้ำรอบพื้นที่ อีก 30 % สำหรับปลูกข้าว และอีก 30% สำหรับไว้ทำโคกหรือป่า โดยปลูกผักไว้เป็นอาหาร ปลูกไม้ใช้สอย ปลูกยาสมุนไพร ส่วน 10% ที่เหลือสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ นายกเทศมนตรีตำบลเวียงชัย จึงได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ร่วมใจพัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ขึ้น เพื่อทำเป็นแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงให้กับประชาชนทั่วไป และสำหรับหน่วยงานองค์กรอื่นๆที่สนใจ เข้ามาศึกษาดูงาน  ในด้านการพึ่งพาตนเอง การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ให้อยู่ดีกินดี อยู่อย่างพอเพียงตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้มอบไว้ให้กับคนไทยทั้งประเทศในพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ร่วมใจพัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง  ทำนา เลี้ยงกบ เลี้ยงแกะ แปลงผักอินทรีย์โดยใช้น้ำจากเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ผ่านระบบน้ำแบบคลองไส้ไก่ และสร้างพื้นที่หลุมพอเพียง มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา พนักงาน ลูกจ้าง ได้รับผิดชอบพื้นที่ภายในศูนย์เรียนรู้ ดังนี้

1. บ่อปลา จำนวน 7 บ่อ  ได้แก่บ่อปลาคณะผู้บริหาร บ่อปลาสมาชิกสภาเทศบาล  บ่อปลาข้าราชการพนักงานกองช่าง กองคลัง กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กองการศึกษา สำนักปลัดเทศบาล

2. พื้นที่หลุมพอเพียง มอบให้คณะผู้บริหาร พนักงานเทศบาล ลูกจ้างประจำ รับผิดชอบ คนละ 1 หลุม โดยมีพนักงานจ้าง และจ้างเหมาบริการ เป็นผู้ร่วมดูแลรับผิดชอบ

3. เล้าไก่แบ่งปัน ให้กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมดูแล

4. เลี้ยงกบเลี้ยงปลาในนาข้าว ให้สมาชิกกลุ่มเลี้ยงกบเลี้ยงปลาในนาข้าวดูแล

5. แกะ ให้คนงานประจำศูนย์ดูแล

และในศูนย์ฯได้จัดทำเป็นฐานเรียนรู้ต่างๆ มอบหมายให้นักพัฒนาชุมชนและเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นวิทยากรประจำฐาน  จำนวน 9 ฐาน ประกอบด้วย

1.ฐานเรียนรู้ฅนเอาถ่าน เรียนรู้การใช้ประโยชน์จากการเผาถ่าน การผลิตน้ำส้มควันไม้ การใช้ขี้เถ้าเศษไม้สำหรับการเกษตร

2.ฐานเรียนรู้ฅนติดดิน เรียนรู้การทำดินเพาะ ดินผสมสำหรับปลูกพืช

3.ฐานฅนมีน้ำยา เรียนรู้การทำน้ำยาเอนกประสงค์สำหรับซักผ้า ล้างจาน ล้างรถล้างห้องน้ำ การทำสบู่สมุนไพร เพื่อลดรายจ่ายให้กับครัวเรือน

4. ฐานเรียนรู้การทำน้ำหมักชีวภาพ เรียนรู้ขั้นตอน วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพ น้ำหมักสมุนไพร

5. ฐานเรียนรู้การเลี้ยงไส้เดือน เพื่อผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือน การนำเอาเศษวัสดุทางการเกษตร ที่เหลือใช้ การนำเอาเศษขยะมาทำอาหารเลี้ยงไส้เดือน

6. ฐานเรียนรู้ปุ๋ยหมักไม่พลิกกลับกอง การทำปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกลับกอง การทำปุ๋ยหมักในวงตาข่าย การทำปุ๋ยหมักในตะกร้า การทำปุ๋ยหมักในกะบะ

7.ฐานเรียนรู้การปลูกผักอินทรีย์ เรียนรู้การปลูกผักโดยไม่ใช้สารเคมี การใช้สารอินทรีย์ชีวภาพในการบำรุงดูแลแปลงผักอินทรีย์

8. ฐานเรียนรู้พลังงานทดแทน เรียนรู้การใช้โซล่าเซลล์เพื่อการเกษตร การแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ การสูบน้ำโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ลงคลองไส้ไก่ เพื่อให้น้ำแก่พืชผักที่ปลูกในแปลงผักอินทรีย์

9. ฐานฅนรักษ์ป่า เรียนรู้ ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คันนาทองคำ เรียนรู้ในการ

ตระหนักถึงคุณค่าของการปลูกต้นไม้ ตามที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชาธิบายถึงประโยชน์ในการปลูกป่าตามพระราชดำริว่า“...การปลูกป่า 3 อย่าง แต่ให้ประโยชน์ 4 อย่าง ซึ่งได้ไม้ผล ไม้สร้างบ้าน และไม้ฟืนนั้น สามารถให้ประโยชน์ได้ถึง 4 อย่าง คือ นอกจากประโยชน์ในตัวเองตามชื่อแล้ว ยังสามารถให้ประโยชน์อันที่ 4 ซึ่งเป็นข้อสำคัญ คือ สามารถช่วยอนุรักษ์ดินและต้นน้ำลำธารด้วย...” ซึ่งการปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง สารมารถแบ่งตามระดับช่วงความสูงและระบบนิเวศได้ 5 ระดับอันได้แก่

1.ไม้สูง เป็นกลุ่มต้นไม้เรือนยอดสูงและอายุยืนไม้ระดับนี้ เช่น ตะเคียน ยางนา เต็งรัง ฯลฯ

2.ไม้กลาง เป็นกลุ่มต้นไม้ที่ไม่สูงนัก ไม้ระดับนี้ได้แก่ บรรดาไม้ผลที่เก็บกินได้ เช่น มะม่วง ขนุน มังคุด ฯลฯ

3.ไม้เตี้ย เป็นกลุ่มต้นไม้พุ่มเตี้ย ไม้ระดับนี้ เช่น พริก มะเขือ กะเพรา ฯลฯ

4.ไม้เรี่ยดิน ไม้ระดับนี้เป็นตระกูลไม้เลื้อย เช่นพริกไทย พลู รางจืด ฯลฯ

5.ไม้หัวใต้ดิน ไม้ระดับนี้ เช่น ขิงข่า มัน เผือก ฯลฯ  

"ชุมชนเข็มแข็ง แหล่งเรียนรู้หลากหลาย
ชาวประชาร่วมใจ พัฒนาเวียงชัยให้ยั่งยืน"




         
© 2015 เทศบาลตำบลเวียงชัย
เลขที่ 555 หมู่ 1 ถนน กรป.กลาง ตำบลเวียงชัย อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย 57210
โทร.0-5376-9086 แฟ็กซ์.0-53768-867    Best resolution 1024 * 786 or higher   Administrator


facebook-messenger--v1